วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ก่อนจะคิดหารายได้พิเศษช่วง"ฟื้นตัว"

         หลังจากฟังท่านผู้นำพูดกรอกหูอยู่ทุกอาทิตย์ว่า "ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจสังคมของเราอยู่ในช่วงฟื้นตัวขอให้พวกเราอดทนกันหน่อย " ส่วนตัวแล้วเชื่อนะครับไม่ใช่ไม่เชื่อแต่สงสัยประเทศไทยเราคงป่วยหนักมากๆมาก่อน ถึงได้ใช้เวลาฟื้นตัวนานมากกก...ก(ก.ไก่เยอะมาก)
         กว่าจะผ่าน"ช่วงฟื้นตัว" นี้ไปได้หลายคนคงหัวหมุนกับการหารายได้พิเศษเพื่อให้พอกับรายจ่ายที่นับวันจะเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ
         นาทีนี้หากคุณยังไม่เจอหนทางหารายได้เพิ่มลองเก็บเรื่องนี้ใส่ลิ้นชักไปก่อนไม๊ เพราะผมมีเคล็ดลับที่จะพาคุณผ่าน"ช่วงฟื้นตัว"นี้ไปโดยที่บางทีคุณอาจไม่ต้องหัวหมุนหางานพิเศษทำหรือนำเงินเก็บ(ที่อาจมีไม่มาก..หรือมาก...ก็ช่างคุณสิ)ออกมาลงทุนทำอะไรที่แม่แต่ตัวคุณเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะคืนทุนเมื่อไหร่(หรือจะได้คืนหรือเปล่า)
         เคล็ดลับที่ว่ามีเพียงข้อเดียวเท่านั้นครับ และใช่ว่าจะไม่เคยผ่านตาคุณมาก่อนเลย นั่นก็คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่าย คนแถวบ้านก็เรียก บัญชีครัวเรือน อันเดียวกันนั่นแหละครับ บางคนอาจคิดว่า "อ่านมาตั้งนานนึกว่าจะอะไรซะอีก กะอีแค่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะไปช่วยอะไร๊ จะทำให้ได้เงินเพิ่มได้ไง" ครับ ผมไม่เถียง มันไม่ได้ช่วยให้ได้เงินเพิ่มขึ้นมาหรอกครับ แต่มันเป็นวิธีที่จะบอกสถานะทางการเงินของคุณอย่างละเอียด(นอกจากดูจากจำนวนซองมาม่าในถังขยะตอนสิ้นเดือน) มันสามารถบอกคุณได้ว่าเดือนนึงคุณหมดเงินไปกับเรื่องไร้สาระอะไรบ้างและเท่าไร สมมุติบางคนคิดมากฝรั่งอาจจะซื้อวันละ 20 บาทน้ำอัดลมขวดนึง 10 บาท ขนมจุกจิก(แค่พอให้เข็มตัวเลขชี้บอกน้ำหนักคุณไม่ให้เบาไปกว่าเดือนก่อนๆ)อาจจะซัก 30 บาท ค่านู่นนี่นั่นอีก 30 บาทอะ ส่วนคุณผู้หญิงอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งค่าแป้งโบ๊ะหน้า สีทาปาก ทาตา ทาเล็บ ทาหัว ทาหู ทาอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายสุดที่จะจินตนาการไปถึง...สมัยนี้...เฮ่อ ต่างคนก็ต่างเหตุผลว่ากันไป
         ก็นั้นแหละครับ บางคนฟังแล้วก็อาจจะคิดว่า "ก็มันเยอะตรงไหนรวมแล้วยังไม่ถึงร้อยเลยโด่...บางคนยังเยอะกว่านี้อีก"
   ใช่ครับ แต่ละครั้งที่จ่ายมันไม่มากก็จริง บางทียื่นเศษเหรียญในกระเป๋ากางเกงออกไปจากมือมันรู้สึกว่าน้อยมากๆ พอมารวมทั้งวันแล้วก็ยังไม่มากอยู่ดีแต่คุณลองเอาเลข 30 ไปคูณดูสิครับ สำหรับบางคนมันพอสำหรับค่าเช่าบ้านเลยนะครับ บางคนได้ค่าผ่อนรถ  บางคนก็ได้ค่าขนมลูก ได้อะไรเยอะแยะที่บางเดือนคุณต้องหาจากที่อื่นมาโปะ นี่แค่เดือนเดียวนะ ถ้าปีหนึ่งล่ะ ได้เงินก้อนนึงเลยนะนั่น แล้วทีนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าเงินแค่วันละไม่ถึง 100 สิ้นเดือนหรือสิ้นปีมา มีค่ามหาศาลขนาดไหน
         แต่ก็นั่นแหละ วิธีนี้มันก็เป็นแค่กุญแจดอกหนึ่ง ทำได้แค่ปลดล็อคเท่านั้น แต่จะผ่านพ้นมันไปได้คุณต้องดันประตูออกไป        ใช่ครับ สุดท้ายก็ต้องเป็นตัวคุณเองนั่นแหละที่จะยอมรับความจริงว่าอันไหนสาระอันไหนไร้สาระ อยู่ที่คุณแล้วว่ากล้าพอหรือเปล่าที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตกล้าพอที่จะตัดอะไรๆ ออกไปบ้าง
         พ่อของผมเคยบอกกับผมว่า "อมลำบากดีกว่าจำเป็นต้องลำบาก"  หมายความว่าหากเรายอมรับสภาพและยินดีจะลำบากเราจะรู้สึกว่าลำบากน้อยกว่าวันที่เราลำบากโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย
         เป็นกำลังใจให้กับทั้งคนที่กำลังลำบากและคนที่ไม่อยากลำบากนะครับ ว่า "...เขาจะทำตามสัญญา  เหลือเวลาอีกไม่นานนนน...(น.หนูขวักไขว่)
         แล้วคราวหน้าเราจะมาคุยกันต่อหลังจากได้บัญชีรายรับรายจ่ายของเดือนนึงแล้ว ว่าหลังจากตัดรายการที่ไร้สาระจนเกินไปออกหมดแล้วเราจะจัดการเงินที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดยังไง จะเรียกว่าเป็นเคล็ดลับระดับ advance ก็ได้ครับ แล้วพบกันใหม่ครับ by๋e bye.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น